วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รวบรวมข้อมูลการเลี้ยงกล้วยไม้



ประเภทของกล้วยไม้







ปฏิทินกล้วยไม้















ปุ๋ยที่ใช้กับกล้วยไม้







ราคากล้วยไม้



ที่มา http://www.airorchids.com/



***ปุ๋ยกล้วยไม้***

1. ปุ๋ยเกล็ด ใช้สลับกันแต่ละอาทิตย์แบบบำรุงต้นกับบำรุงดอก
ใช้ปุ๋ยเกล็ดสีฟ้าบำรุงต้น เกล็ดสีเขียวบำรุงดอก
2. ปุ๋ยน้ำ
3. ปุ๋ยออสโมโคท
4. ปุ๋ยวินคลอซี่ปุ๋ยเมล็ดละลายน้ำ



***ตระกูลกล้วยไม้ 6 ประเภท***
1. สกุลแวนด้า กล้วยไม้รากอากาศ มาจากฟ้ามุ่ย โครงสร้างลำต้นใบคล้ายพัด ออกดอกทั้งปี สกุลแวนด้า 4 ต้น 
2. สกุลมอคโคล่า
3. สกุลหวาย ราคาถูก ตายยาก ออกดอกตลอดปี ดอกอยู่นาน 1 เดือน
4. สกุลแคทลียาสีเข้มจะจ้าน หรูหรา ดอกใหญ่อยู่นาน 2 อาทิตย์
5. สกุลช้าง ดอกเหมือนง่วงช้าง ออกปีละครั้งในหน้าหนาว ดอกอยู่นาน 3 อาทิตย์
6. สกุลฟาแลนแคระต้นละ 110฿



***ความรู้เกี่ยวกับกล้วยไม้***
- ไม้ป่าแกรมมาโต ลายเสือ ดอกเขียว+เหลือง หรือลายเสือ ดอกน้ำตาล ช่อดอกยาวเป็นเมตร ดอกอยู่เป็นเดือน ออกดอกเม.ย. หมดหน้าดอกเดือน พ.ค. ราคา 400฿
- กล้วยไม้ที่ติดตามต้นไม่ มีช้างหลากสี 5 ต้น ออกกหน้านาว ปีละครั้ง อีก 2 ต้น ฟลอเนียออกหน้าร้อน
- กล้วยไม้ดินให้ใช้กากมะพร้าวห้ามใช้ดิน
- ปุ๋ยออสโมโคท ละลายช้า อยู่ได้ 3 เดือน ใส่ครั้งละ 10 เม็ด



***การเลี้ยงกล้วยไม้และการให้ปุ๋ย***
1. ชณะมีดอกลดน้ำอย่างเดียวทุกวัน อย่าให้น้ำโดนดอก ต้องลดตอนเช้าก่อน
10.00 น.
2. เมื่อออกดอกหมดตัดช่อกิ่งดอกออก
3. ลดน้ำทุกวันก่อน 10.00 น.
4. ก่อนให้ปุ๋ยทุกครั้ง ต้องลดน้ำให้ชุ่มก่อน ก่อนจะฉีดน้ำให้ปุ๋ย
5. การให้ปุ๋ย 7 วัน ต่อ 1 ครั้ง 
สลับกันแบบบำรุงต้นกับบำรุงดอก
ใช้ปุ๋ยเกล็ดสีฟ้าบำรุงต้น เกล็ดสีเขียวบำรุงดอก
ใช้อัตราส่วน น้ำ 1 ลิตร ต่อ 1/2 ช้อนชา
6. มีโรคกับกล้วยไม้ เช่นแมลงเต่าทอง



***การเลี้ยงกล้วยไม้ให้ออกดอก 4 ขั้นตอน***
1. รดน้ำให้ชุ่มวันละครั้ง ในช่วงเช้าดีที่สุดและอย่าลดโดนดอก ต้นไม้ต้องการเปียกแล้วแห้ง ไม่ใช่ชื้นตลอดเวลา ใส่ปุ๋ยเม็ดออสโมโคทที่โคนททุกๆ 3 เดือน ต้นละประมาณ 10 เม็ด หรือปุ๋ยบอร์มาร์ตจากแอร์ออร์คิดส์ทุกๆ 5-7 วัน
2. ควรแขวนกล้วยไม้ในบริเวณที่แดดส่องถึง เช่นใต้ชายตาหรือใต้ต้นไม้(ไม่ควรวางไว้กลางแจ้งโดยไม่มีที่บังแสงแดด) มีลมผัดผ่าน อากาศถ่ายเทสะดวก
3. เมื่อดอกกล้วยไม้โรยหมดแล้ว ควรตัดช่อทิ้ง เพื่อให้แตกช่อหรือแตกหน่อใหม่
4. ถ้าผู้เลี้ยงให้การดูแลอย่างสม่ำเสมอ ต้นกล้วยไม้ก็จะอยู่ให้ท่านชื่นชมได้น้านนาน


                จบการนำเสนอ THE END


การปลูกหญ้าญี่ปุ่น/นวลน้อย/มาเลเซีย/เบอร์มิวด้า


          ประเภทของหญ้าทีใช้ปูสนาม


ที่นิยมมี 4 ประเภท

1.หญ้าญี่ปุ่น

       หญ้าญี่ปุ่นนี้ มีถิ่นกำเนิดในแถบแมนจูเรีย ซึ่งบางที่ก็เรียก Kerean Lawngrass เนื่องจากมีการนำเมล็ด เข้าไปในสหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2473 แต่ภายหลังนิยม เรียกกันว่า japanese Lawngrass มากกว่า ซึ่งก็คงเนื่องจากอิทธิพล ของการจัดสวนญี่ปุ่น ที่ใช้หญ้าชนิดนี้ เป็นส่วนประกอบใหญ่ ก็เลยเรียกว่า หญ้าญี่ปุ่น ติดปากกันมาทุกวันนี้
        หญ้าญี่ปุ่น มี ชนิด
       1. 
ชนิดใบกว้าง จะมีใบประมาณ มิลลิเมตร
       2. 
ชนิดใบกลม ใบเล็กและละเอียดกว่า ซึ่งเป็นที่นิยมปลูกในประเทศไทยมาก
      ใบ 
      ใบสีเขียวเข้ม ใบเล็กละเอียดกลมแข็ง ปลายใบแข็งและแข็งกระด้างเวลาสัมผัสจะระคายผิวหนัง ขอบใบเรียบไม่มีขน

       หญ้าญี่ปุ่นนี้ ต้องการน้ำมาก และการเจริญเติบโดช้า ต้องใช้เวลาเป็นเดือนเป็นปีกว่าจะขึ้นเต็มสนาม ถ้าแห้งแล้งนาน ๆ หรือขาดน้ำใบจะเหลืองทันที เป็นหญ้าที่ทนต่อการเหยีบย่ำพอสมควร และไม่ค่อยยืดหยุ่นตัวเหมือนหญ้านวลน้อย หญ้าญี่ปุ่นนี้เจริญเติบโตช้า แต่เมื่อขึ้นแล้วจะหนาแน่นมาก ขึ้นคลุมดินวัชพืชไม่สามารถขึ้นแข่งได้ การแต่งไม่บ่อยนัก เพราะเจริญเติบโตช้า ถ้าปล่อยไว้นาน ๆ ก็จะเป็นกระจุก การตัดแต่งลำบาก  หญ้าญี่ปุ่นเป็นพันธุ์หญ้าที่ไม่ต้องการปุ๋ยมากนัก ทนต่ออากาศหนาวได้ดี หญ้าญี่ปุ่นมีใบสีเขียวเข้ม ใบเล็กละเอียดปลายใบแข็งกระด้าง ขอบใบเรียบและไม่มีขน เหมาะแก่การปลูกสวนหย่อมและพื้นที่ไม่กว้างนัก
      การตัดแต่ง
      เนื่องจากหญ้าญี่ปุ่นมีลำต้นและใบแข็งกระด้างมาก ดังนั้นการใช้เครื่องตัดหญ้า ต้องมีกำลังสูง และมีใบมีด ที่คมมาก 
      ข้อดี 
      เป็นหญ้าที่เล็กมองดูแล้วสวยงามดี เหมาะสำหรับปลูกเป็นสวนหย่อม และพื้นที่ก็ควรไม่กว้างมากนัก และใช้ปลูกในบริเวณ ที่เป็นทางเข้าได้ดี เพราะสามารถป้องกัน และควบคุมไม่ให้บุกรุกบน ทางเท้า ได้ง่ายกว่าหญ้าชนิดอื่น
      ข้อจำกัด 
      ใบหญ้าจะแข็งกระด้าง และปลายใบเล็กเรียวแหลม ทิ่มตำระคายผิวหนัง การตัดลำบากและกินแรงมาก 


2.หญ้านวลน้อย 

      หญ้านวลน้อย เป็นพันธุ์หญ้าที่ทนต่อภูมิอากาศที่ดีที่สุดมีความอ่อนนุ่ม นวลน้อยชอบแสดงแดดจ้ดไม่ทนต่อสภาพร่มไม่มีแดดทนต่อการเหยียบย่ำได้ดีจึงเป็นหญ้าที่นิยมมาปูสนาม นวลน้อยเป็นหญ้าที่นิยมปลูกกันมากสามารถขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด

3. หญ้ามาเลเซีย

        หญ้ามาเลเซีย เป็นพันธุ์หญ้าที่ชอบอยู่ในที่ร่มชื้นเป็นหญ้าที่ไม่ต้องเอาใจใส่่มากนักเพราะไม่ต้องตัดบ่อยๆ เหมาะสำหรับผู้ที่่ไม่ค่อยมีเวลา หญ้ามาเลเซียเป็นหญ้าที่ใช้จัดสวนและปูสนามหญ้าเหมือนกับหญ้าชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะในที่ร่ม หญ้ามาเลเซียเป็นหญ้าที่ต้องการน้ำมากและเป็นหญ้าที่เหยียบย่ำมากๆ ไม่ได้หญ้ามาเลย์มีใบสีเขียวเข้ม มีขนาดใบใหญ่กว่าหญ้าอื่นๆ และแบนมีขนเล็กๆ


4.หญ้าเบอร์มิวด้า


      หญ้าเบอร์มิวด้า เป็นพันธุ์หญ้าที่ทนต่อความร้อนและแห้งจะทนแล้งได้นานๆ เมื่อขาดน้ำก็ไม่เป็นไร และทนต่อน้ำท่วมได้ดี หญ้าเบอร์มิวด้าเป็นหญ้าที่สวยงามมีใบละเอียดนิ่มทนต่อการเหยียบย่ำฟื้นตัวได้ดี เหมาะแก่การทำสนามกอล์ฟแต่ไม่นิยมทำสนามฟุตบอล ปลูกง่ายแข็งแรงทนทาน ลำต้นประสานงานกันแน่นใบเขียวเข้มนิยมปลูกกันในสนามกอล์ฟ สวนสาธารณะ


หมายเหตุ 

        ถ้าหน้าบ้านถูกแดดตลอดวัน ขอแนะนำให้ปลูกหญ้าญี่ปุ่น เพราะชอบแดด  ถ้าสนามถูกแดดจัดตลอดวัน หญ้านวลน้อยเหมาะมาก แต่ถ้ามีร่มเงาของต้นไม้หรือตัวบ้าน ควรปลูกหญ้ามาเลเซีย



                 ขั้นตอนการปูหญ้า


ขั้นตอนการปูหญ้าวิธีที่1

1.
เริ่มจากการปรับสภาพพื้นดินให้เรียบจนเราพอใจก่อนครับ บางคนอาจจะเล่นเป็นเนินโค้งสวยๆแล้วแต่ชอบ
2.
จากนั้นโรยทรายขี้เป็ดหริอดินขลุ่ยใผ่ให้ทั่วบางๆครับ ใช้จอบเกลี่ยๆไปให้ทั่ว ดินเราจะได้มีสาร
อาหารอร่อยๆให้หญ้าครับ
3.
รดน้ำให้ทั่วจนสภาพพื้นที่มีความชุ่มชื้นและอ่อนนุ่ม สำคัญย้ำว่าดินต้องนุ่มๆเลย
4.
เตรียมหญ้าที่จะปูมาวางให้เต็มพื้นที่ ส่วนเกินก็ฉีกออกให้สวยงาม
5.
จากนั้นกดหญ้าที่เราเพิ่งจะปูลงไปเมื่อกี้ให้ติดกับดิน นี่คือเหตุผลที่ต้องให้รดน้ำให้ชุ่มพยามกดให้รากหญ้าติดดินให้ได้ ใครมี
ลูกกลิ้งบดอัดพื้น หรือใช้จอบปรับแต่งดินให้เรียบ และใช้หน้าจอบทุบๆอัดเอาก็ได้ นำมากระแทกให้ญ้าติดดินหรืออะไรใช้ได้ก็เอามาใช้ได้ 
6.ดูความเรียบร้อย แล้วรดน้ำตามให้ชุ่มเป็นอันเสร็จขั้นตอนการปลูกญ้า

ขั้นตอนการปูหญ้าวิธีที่2

          ก่อนปลูกต้องปรับพื้นที่ให้เรียบเสมอกันด้วยทรายหรือดินก่อน หลังจากนั้นค่อยปูหญ้าลงไป 
(
ถ้าไม่ใจร้อนอยากให้เต็มสนามเร็วๆ ก็ควรปลูกเว้นระยะสักหน่อย เดี๋ยวหญ้าก็จะโตมาติดกันเอง)
ก่อนอื่นต้องเลือกหญ้าให้เหมาะครับ
แต่ถ้าถูกแดดรำไร หญ้ามาเลเซียเหมาะกว่า วิธีทำ 
๑. ก่อนอื่นให้รองพื้นด้วยทรายชั้นหนึ่งก่อน เพื่อให้ระบายน้ำได้ดี 
๒. เทโคลนกลบทับอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้รากหญ้ายึดเกาะและแตกรากได้เร็ว
๓. ถ้าพื้นที่ไม่มาก ปูทั้งแผ่นก็สะดวกดี แต่ถ้าพื้นที่มาก ควรตัดแบ่งหญ้าเป็นชิ้น ๆ
   
ขนาดประมาณ ๑ ฝ่ามือ ปูเว้นระยะห่างกันเท่าขนาดหญ้าที่ตัดแบ่ง 
   
วิธีนี้เมื่อหญ้าขยายกอแผ่ประสานกันจะสวยงามมากทีเดียวครับ
๔. ถ้าต้องการให้โตเร็วควรให้ปุ๋ยยูเรียผสมน้ำรดวันละครั้ง

ปรับดินให้เรียบด้วยทรายขี้เป็ด
โรยปุ๋ยคอกบางๆให้ทั่ว
ปูแผ่นหญ้า (แดดแรง นวลน้อย แดดน้อยมาเลย์) โดยปูสับหว่างแต่ละแถวเหมือนก่ออิฐ
เว้นระยะระหว่างแผ่นประมาณ หนึ่งนิ้ว เพื่อให้หญ้าไม่โตเกยกัน
นำลูกกลิ้งบดให้เรียบแน่น
เดินดูตามรอยต่อ ผสมทรายกับปุ๋ยคอกโรยตามแนวรอยเพื่อเร่งให้โตมาชนกัน
ตรงไหนยังต่ออยู่ใช้ปุ๋ยทรายโรยเติมบางๆ(ค่อยๆเติมไปเรื่อยๆ ซักเดือนละครั้งให้หญ้าปรับตัว)
รดน้ำให้ชุ่ม
และรดน้ำทุกวัน ช่วงแรกถ้าแดดแรง หรืออากาศแห้งมากก็อาจจะรดทันทีที่เริ่มแห้ง
ครบสัปดาห์อาจจะรดปุ๋ยยูเรีย เดือนละครั้ง

วิธีการปูหญ้าแบบปูพรม
วิธีการปูหญ้าแบบปูพรมนั้น หลังจากการเกลี่ยดินให้เสมอแล้ว ขั้นตอนแรกก็รดน้ำให้ชุ่มค่ะ การเกลี่ยดินต้องเกลี่ยให้ต่ำกว่าระดับที่ต้องการ 1/2 - 1 นิ้ว เพราะแผ่นหญ้า ที่ซื้อมาก็จะหนาประมาณที่กล่าวมาแล้ว ถ้าไม่เกลี่ยดิน แต่ปูหญ้าลงไปเลยหญ้าก็จะสูงกว่าระดับที่ต้องการ

การปูหญ้า ก็คล้ายกับ การปูกระเบื้องทางเท้าค่ะ ต้องปูให้ได้ฉากกันแล้วจะดูสวยงามและเป็นระเบียบ การปูหญ้ามี วิธี ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสีย ดังนี้

1.การปูหญ้าแบบชิดติดกัน เป็นการปลูกให้ชิดกันเลยระหว่างแผ่นต่อแผ่น ถ้าหากปูไม่ชิดกัน ก็จะเกิดสันร่องระหว่างแผ่น และถ้าหญ้าขาดน้ำแนวของขอบแผ่นจะเหลือง การปูต้องระวัง อย่าปูให้เกยกัน เพราะจะทำให้หญ้าส่วนที่เกยกัน มีการเจริญเติบโตไม่ดี ซึ่งส่วนที่เกยนี้จะไม่ได้สัมผัสดิน หญ้าที่ถูกเกยทับไม่ได้รับแสงก็จะเหลือง วิธีนี้เหมาะสำหรับหญ้า ที่เจริญเติบโตแนวตั้ง เช่น หญ้าญี่ปุ่น
2.การปูหญ้าแบบห่างกันเล็กน้อย เป็นการปูหญ้าแบบเว้นตะเข็บเล็กน้อยถ้าปลูกชิดกันเหมือนข้อแรก ปลายแผ่นหญ้า จะเจริญเติบโต มาชิดกัน เหมือนข้อแรก ปลายแผ่นจะเจริญเติบโตชิดกันแล้วจะฟูขึ้นมาเป็นกระจุก ๆ หลังจากปูแล้วต้องใส่ดินตรงตะเข็บหรือรอยต่อ มิฉนั้นหญ้าจะขึ้นสูงกว่าพื้นสนามได้ และเมื่อเจริญเติบโตออกนอกแผ่น หญ้าเดิมก็จะพอกันกับรอยตะเข็บที่เว้นไว้ ทำให้สนามเรียบกว่าวิธีแรก วิธีนี้เหมาะสำหรับหญ้าที่เจริญเติบโตในแนวนอน เช่น หญ้านวลน้อย วิธีที่เหมาะสำหรับการปลูกในเนื้อที่สนามไม่มากนัก
         สนามหญ้าที่ปูนี้ ควรจะถมทรายปะหน้าดินบาง ๆ แล้วปรับพื้นทรายให้เรียบจึงรดน้ำให้ชุ่ม การปูหญ้าควรเริ่มจากมุมใดมุมหนึ่งก่อน แล้วเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เหยี่ยบย่ำหญ้าที่ปลูก ขณะที่เดินถอยหลังบริเวณที่ผู้ปลูกเหยียบจะเป็นหลุมเป็นบ่อ สามารถมองเห็นและซ่อมบ่อได้ ถ้าปล่อยให้เป็นหลุมแล้ว เวลารดน้ำแล้ว น้ำจะขัง ทำให้หญ้าเน่าตายได้
หลังจากปูเสร็จ ก็ให้ใช้ลูกกลิ้งที่มีน้ำหนักเบา ๆ กลิ้งทับเพื่อกดหญ้าให้ติดแน่น

การปูหญ้า ควรปูสลับกันแบบก่ออิฐ เพื่อกันน้ำเซาะทำให้ดินพังทะลาย

         เมื่อปูหญ้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องรดน้ำให้ชุ่มชื้นไม่ต้องถึงกับแฉะประมาณ อาทิตย์ พอหญ้าตั้งตัวได้ จึงลดการให้น้ำ 
ถ้าปูหญ้าที่มีความลาดเอียงมาก ควรทำมุดตอกยึดไว้ โดยใช่มุดที่ทำด้วยไม้ เพื่อให้หญ้าสัมผัสดินได้ดี และแผ่นหญ้าไม่เลื่อนในเวลารดน้ำนั่นเอง หลังจากปลูกเสร็จแล้ว ต้องหมั่นตรวจดูตรงช่องวางที่เว้นไว้ว่า มีวัชพืชขึ้นหรือไม่ด้วย ถ้ามีให้จัดการถอนออกไปเพื่อให้สนามหญ้าของเราสวยงามอย่างที่เราต้องการ




                 ขั้นตอนการดูแลรักษา


         หลังจากนี้ก็คอยรดน้ำทุกๆวันชุ่มๆหน่อย สัก1อาทิตย์ต้นหญ้าก็น่าจะเดินราก
รดน้ำให้ชุ่ม และรดน้ำทุกวัน ช่วงแรกถ้าแดดแรง หรืออากาศแห้งมากก็อาจจะรดทันทีที่เริ่มแห้ง
ก็ต้องรดน้ำให้ชุ่มชื้นไม่ต้องถึงกับแฉะประมาณ อาทิตย์ พอหญ้าตั้งตัวได้ จึงลดการให้น้ำครบสัปดาห์อาจจะรดปุ๋ยยูเรีย เดือนละครั้ง 


แหล่งที่มา จากอินเตอร์เน็ต

วันเสาร์ที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รวบรวมภาพวิวมุมต่างของ Lumpini Jomtien Park Beach




  


 






 





























































































































 





 







สนใจที่จะพักอาศัยดูลิงค์ : http://www.dealfish.co.th/product-2718412

คอนโดติดทะเล ลุมพินีพาร์คบีชจอมเทียน

1) LPN Park Beach Jomtien Pataya เนื้อที่โครงการประมาณ 10 ไร่ 2 งาน จำนวน 3 ตึก ตึก A,B และ C สูง 30 ชั้น จำนวน 1,846 ยูนิต จำนวนที่จอดรถ 640 คัน
2) 2.1 ห้อง ตึก C อยู่ชั้น 24 ยูนิต C2420 ขนาด 28.40 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ด้านทิศใต้รับลม เห็นวิวทะเลหาดจอมเทียน+วิวสระว่ายน้ำ ขายราคา 1,850,000 บาท มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง 1 ระเบียง มีแอร์ 2 ตัว ที่ทำน้ำอุ่น 1 ที่ ชุด Built-in เคาท์เตอร์ครัว และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ (FACILITIES) มี ห้องLOBBY ห้องออกกำลังกาย(FITNESS) ที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ห้องอบซาวน่า,สตรีม ห้องสมุด Sky Lounge (ชั้น 29 ตึก A ด้านหน้าทะเล) Club House สระว่ายน้ำ 2 สระ สวนรวมใจ CCTV(วงจรปิด) ร.ป.ภ.24 ชั่วโมง ที่จอดรถ พร้อมเข้าอยู่และพักผ่อนได้ เป็นคอนโดติดริมทะเลสามารถเดินลงทะเลหาดจอมเทียนได้เลย อยู่ห่างจากชายหาดประมาณ 7 เมตร รายละเอียดนอกจากนี้ดูได้จากโครงการ LPN Park Beach Jomtien Pataya หรือตาม link ค่ะ http://www.lpn.co.th/lumpini2011/lb-jt/index.php 

     2.2 ห้อง ตึก B อยู่ชั้น 27 ยูนิต C2705 ขนาด 28.40 ตารางเมตร แบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ด้านทิศเหนือรับลม เห็นวิวทะเลหาดจอมเทียน+วิวสระว่ายน้ำ ขายราคา 2,100,000 บาท มี 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 1 ห้องโถง 1 ระเบียง รายละเอียดต่างๆเหมือน2.1
3) หมายเหตุ ราคาขายโครงการ ณ.ปัจจุบัน ห้องขนาด 28 ตร.ม ราคา 1.95 ล้านบาท ณ ชั้นที่ 6 และชั้นที่สูงๆขึ้นราคาจะเพิ่มขึ้น
4) สนใจสอบถามเพิ่มเติมติดต่อ คุณยุ 085-1505363(เจ้าของห้องขายเอง)
สามารถโทรสอบถามได้ตลอดเวลา ขอบคุณค่ะ ^^
5. มี 4 ลิงค์ ที่ประกาศขาย


                              จบการนำเสนอ THE END